標準偏差:トレーダー向けのボラティリティ分析ツール

ทำความเข้าใจ S.D. และที่มาของตัวบ่งชี้นี้

ตัวชี้วัดที่เรียกว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หรือ Standard Deviation (S.D.) เป็นเครื่องมือทางสถิติที่พัฒนาขึ้นโดยนักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ คาร์ล เพียร์สัน เมื่อปี 1894 แม้ว่าแนวคิดนี้เกิดมาจากโดเมนคณิตศาสตร์สถิติ แต่ในเวลาต่อมา นักเทรด นักวิเคราะห์ และนักวิจัยต่างพบว่า s.d. นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวิเคราะห์ตลาดการเงิน

ตัวบ่งชี้ s.d. พื้นฐานมาจากการวัดระดับการกระจายตัวของข้อมูลจากค่าเฉลี่ย ค่าที่สูงขึ้นบ่งบอกว่าช่วงค่าในชุดข้อมูลกว้างขึ้น ในขณะที่ค่าที่ต่ำกว่าแสดงถึงการกระจายที่แคบลง

การประยุกต์ใช้ S.D. ในการวัดความผันผวน

ในตลาดฟอเร็กซ์ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ความผันผวนของคู่สกุลเงิน โดยการวัดว่าราคาปัจจุบันเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยมากน้อยเพียงใด

เมื่อ S.D. มีค่าสูง นั่นหมายความว่า:

  • ราคาสินทรัพย์มีการแกว่งตัวอย่างรุนแรง
  • ความผันผวนในตลาดอยู่ในระดับสูง
  • ความเสี่ยงที่คาดหวังจึงสูงขึ้นตามไปด้วย

เมื่อ s.d. มีค่าต่ำ นั่นหมายความว่า:

  • ราคาเคลื่อนไหวภายในช่วงค่อนข้างแคบ
  • ความผันผวนลดลง
  • ระดับความเสี่ยงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า

ประโยชน์หลักของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการเทรด

เทรดเดอร์สามารถนำ s.d. มาใช้ประโยชน์ในหลายด้าน:

  • วัดและติดตามความผันผวน: ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจระดับความเสี่ยงของคู่สกุลเงินที่ตนเองกำลังเทรด

  • กำหนดระดับ Stop-Loss: โดยใช้การประเมินระยะทางที่ราคาอาจเคลื่อนไหว ทำให้สามารถวางออร์เดอร์ป้องกันขาดทุนได้อย่างสมเหตุสมผล

  • ระบุแนวโน้มและจุดพลิกตัว: เมื่อรวมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น Moving Average ก็สามารถช่วยตัดสินใจเข้า-ออกได้ดีขึ้น

  • จัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ: การรู้ระดับความผันผวนช่วยให้ตัดสินใจเกี่ยวกับขนาดของตำแหน่งเทรดได้อย่างรอบคอบ

  • ระบุจุดแข็งของการทะลุ: ระยะห่างระหว่างราคาปัจจุบันกับค่าเฉลี่ยสามารถบ่งชี้ความแข็งแรงของการพุ่งตัวออกจากขอบเขตได้

วิธีการคำนวณ S.D. ในการเทรดฟอเร็กซ์

สูตรคำนวณ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน นั้นใช้ราคาปิดของคู่สกุลเงินในช่วงเวลาที่กำหนด โดยปกติใช้ระยะเวลา 14 วัน ขั้นตอนการคำนวณมีดังนี้:

  1. รวบรวมราคาปิดของคู่สกุลเงินในช่วงเวลาที่ต้องการ
  2. คำนวณค่าเฉลี่ยของราคาปิด (Mean) โดยนำราคาปิดทั้งหมดบวกกันแล้วหารด้วยจำนวนช่วงเวลา
  3. นำค่าเฉลี่ยมาลบออกจากแต่ละราคาปิด แล้วยกกำลังสอง
  4. นำผลต่างกำลังสองทั้งหมดบวกกันแล้วหารด้วยจำนวนช่วงเวลา
  5. หารากที่สองของผลลัพธ์ที่ได้

ผลที่ได้คือค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานที่บ่งบอกระดับความผันผวนของคู่สกุลเงินนั้น

กลยุทธ์การใช้ S.D. ในการเทรด

กลยุทธ์ที่ 1: การเทรดการทะลุจากช่วงปรับตัว (Breakout Strategy)

กลยุทธ์นี้เป้าหมายไปที่ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นหลังจากช่วงราคาที่หยุดนิ่ง:

  • ค้นหาคู่สกุลเงินที่ราคาเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ โดยมีความผันผวนต่ำ
  • เพิ่ม s.d. ลงในแผนภูมิและตั้งค่าระยะเวลาให้สอดคล้องกับความยาวของช่วงนิ่ง
  • เฝ้าดูเมื่อราคาฝ่าออกจากแถบ s.d.
  • เมื่อได้รับการยืนยันการทะลุ ให้เข้าเทรดไปในทิศทางการฝ่า
  • วางหยุดขาดทุนที่ด้านตรงข้ามของช่วงนิ่ง และกำหนดเป้าหมายกำไรโดยใช้ระยะทาง s.d. จากจุดทะลุ

กลยุทธ์ที่ 2: ระบุการกลับตัวของแนวโน้มในช่วงต้น (Trend Reversal Detection)

กลยุทธ์นี้ใช้ s.d. เพื่อตรวจจับสัญญาณเตือนว่าตลาดกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง:

  • เพิ่มตัวชี้วัด s.d. ลงในแผนภูมิด้วยระยะเวลาที่สะท้อนแนวโน้ม
  • สังเกตว่าราคาแตะแถบบนหรือล่างของ s.d. บ่อยแค่ไหน
  • ถ้าราคาแตะแถบบนอย่างซ้ำๆ อาจบ่งชี้ว่าคู่สกุลเงินมีการซื้ออยู่มากเกินไป
  • ถ้าราคาแตะแถบล่างอย่างซ้ำๆ อาจบ่งชี้ว่ามีการขายมากเกินไป
  • เข้าเทรดในทิศทางตรงกันข้ามกับแนวโน้มปัจจุบันเมื่อมีสัญญาณกลับตัว
  • ใช้ระยะห่าง s.d. เพื่อกำหนดระดับ Stop-Loss และ Take-Profit

การรวมใช้ S.D. กับ Bollinger Bands

Bollinger Bands และ s.d. สามารถใช้ร่วมกันเพื่อได้ภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับความผันผวนของตลาด:

  • Bollinger Bands ใช้ค่า s.d. ในการกำหนดแถบบนและล่าง ดังนั้นจึงเป็นตัวบ่งชี้ที่เกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิด

  • การรวมตัวชี้วัดทั้งสองช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจความผันผวนของตลาดได้ลึกขึ้น

  • เมื่อ Bollinger Bands ขยายตัว แสดงว่า s.d. เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงความผันผวนเพิ่มขึ้น

  • เมื่อ Bollinger Bands แคบตัว แสดงว่า s.d. ลดลง สัญญาณนี้มักนำไปสู่การทะลุใหญ่ในไม่ช้า

  • การยืนยันแนวโน้ม: ถ้าราคาเคลื่อนไปในทิศทางเดียวและ s.d. เพิ่มขึ้น ก็บ่งชี้ว่าแนวโน้มมีแนวโน้มที่จะต่อเนื่อง

ข้อควรระวังและเคล็ดลับในการใช้ S.D.

แม้ว่า s.d. จะเป็นเครื่องมือที่มีพลัง แต่ก็มีข้อจำกัด:

  • สัญญาณปลอม: กลยุทธ์นี้อาจสร้างสัญญาณที่ผิดพลาดในตลาดที่มีแนวโน้มแข็งแรงหรือเมื่อมีข้อมูลข่าวสำคัญ

  • ไม่ใช่เครื่องมือเดียว: ควรใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น Moving Average, RSI, MACD เพื่อยืนยันสัญญาณ

  • ติดตามเหตุการณ์โลก: ข้อมูลทางเศรษฐกิจ ประกาศนโยบาย ขึ้นลงของตลาดหุ้นอื่นๆ สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดฟอเร็กซ์ได้อย่างมหาศาล

  • ค่าระยะเวลา (Period): การเลือกระยะเวลาที่เหมาะสมต่อ s.d. มีความสำคัญ ระยะเวลา 14 วันเป็นค่าทั่วไป แต่อาจปรับได้ตามสไตล์การเทรด

สรุป: ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานในบริบทการเทรดฟอเร็กซ์

ค่า s.d. นับเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญมากในการเทรดฟอเร็กซ์ เนื่องจากช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจความผันผวนและจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น ความจริงที่ว่าตัวบ่งชี้นี้มีต้นกำเนิดมาจากทฤษฎีทางคณิตศาสตร์สถิติ ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่เชื่อถือได้

เพื่อให้การเทรดประสบความสำเร็จมากที่สุด ไม่ควรพึ่งพา s.d. เพียงอย่างเดียว แต่ควรรวมใช้กับตัวชี้วัดอื่นๆ อีกหลายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Moving Average, Bollinger Bands, และตัวชี้วัดการสั่งซื้อ-ขายมากเกินไป

ในที่สุด ความสำเร็จในการเทรดมาจากการเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของตลาด การบริหารความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ความชำนาญในการใช้เครื่องมือต่างๆ

原文表示
このページには第三者のコンテンツが含まれている場合があり、情報提供のみを目的としております(表明・保証をするものではありません)。Gateによる見解の支持や、金融・専門的な助言とみなされるべきものではありません。詳細については免責事項をご覧ください。
  • 報酬
  • コメント
  • リポスト
  • 共有
コメント
0/400
コメントなし
  • ピン